เกาะสมุย เป็นอีกหนึ่งเกาะที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นเกาะสวรรค์ของนักท่องเที่ยวไม่เฉพาะชาวไทยเท่านั้น ชาวต่างชาติยังให้ความนิยมในการมาพักผ่อนที่เกาะสมุยเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ด้วยน้ำทะเลสีสวยใส ชายหาดขาวสะอาด ใครๆ ก็เลยอยากปักหมุดจะมาสัมผัสบรรยากาศของชายทะเลสมุย อิ้มเองก็เช่นกัน ส่วนตัวอิ้มชอบสมุย เพราะว่าไม่ค่อยวุ่นวาย วิวสวย มีโรงแรม รีสอร์ท มากมาย ที่ความสวยนั้นได้ชื่อว่าติดอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ตั้งอยู่ที่นี่หลากหลายแห่ง และวันนี้อิ้มจะพามาสัมผัสรีสอร์ทอีกแห่งบนเกาะสมุย เป็นพูลวิลล่าอันดับต้นๆ ที่สำคัญยังเป็นรีสอร์ทในฝันของใครหลายๆ คน รวมถึงตัวอิ้มเองด้วยแน่นอนค่ะ ที่นี่คือ Silavadee Pool Spa Resort เป็นรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงเรื่องความสวยงามมายาวนาน อิ้มไม่รู้ว่าก่อนหน้านั้นสวยแค่ไหน รู้แต่ว่า ณ วันที่อิ้มมา ที่นี่สวยงามมากพอกับที่ใจอิ้มคิดเอาไว้ ภายในวิลล่าที่พักเงียบสงบ มีเพียงเสียงลมให้ได้ยืนเอื่อยๆ มองไปสุดสายตามีคลื่นทะเลเบาๆ เงยหน้าไปก็มีท้องฟ้าสีฟ้าสดใส อยู่ที่นี่เหมือนอิ้มได้ใช้เวลาพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ให้ธรรมชาติบำบัดทั้งร่างกายและจิตใจ หลงรักที่นี่เข้าอย่างจังเลยค่ะ เอาหล่ะอิ้มจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักที่นี่ให้มากขึ้นกับรีวิวนี้

Back to nature @ Silavadee Pool Spa Resort

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของทางรีสอร์ท

https://th-th.facebook.com/silavadee/

ขอฝากบ้านหลังเล็กๆอีกหนึ่งหลังของอิ้มด้วยจ้า
https://www.facebook.com/psstorytrip

อิ้มเดินทางจากกรุงเทพฯ และแน่นอนไปสมุย ก็ต้องบินกับบางกอกแอร์เวย์ถูกไหมคะ บอกเลยว่าบางกอกมีความดีงาม เพราะเค้ามีเที่ยวบิน ที่บินตรงไปสมุย ถึงวันเกือบ 20 เที่ยว แถมเวลาบินกับบางกอกถ้าเป็นที่นั่งธรรมดาก็สามารถใช้บริการเลาจน์ได้ แต่ถ้าบินชั้นธุรกิจ (Business Class) ก็สามารถใช้บริการ Blue Ribbon Lounge ได้ สะดวกสบายมากกกกก

วันนี้อิ้มบินแบบ Economy class เราก็จะมาเข้าเลาจน์ ยื่นบัตรโดยสารที่เค้าท์เตอร์นี้ได้เลยนะคะ เค้าจะมี password wifi ให้

ที่นั่งภายในเลาจน์ค่ะ มีหลากหลายโซนทีเดียว

มีขนมให้เลือกทานเยอะแยะมากมาย

แต่ที่ห้ามพลาดเมื่อบินบางกอกแอร์เวย์ ต้องนี่เลยค่ะ ข้าวต้มมัดในตำนาน

รู้ตัวอีกทีก็จัดไปสามชิ้น พร้อมชาเย็นหนึ่งแก้ว รอเรียกขึ้นเครื่องสวยๆ จ้าาาา

ได้เวลาเดินทางแล้วว

ขึ้นเครื่องแล้วก็ยังมีอาหารบริการด้วยนะคะ อิ่มวนไปค่ะ

ผ่านไปแว้บบเดียวก็มาถึงสมุย รถของรีสอร์ทก็มาจอดรอเราอยู่แล้ว Silavadee Pool Spa Resort ตั้งอยู่ที่หาดละไม จากสนามบินสมุย เราใช้เวลานั่งรถประมาณครึ่ง ชม ก็จะถึงรีสอร์ท มาถึงแล้วก็รับ welcome drink ไปทานให้ชื่นใจ พร้อมผ้าเย็น และพวงมาลัยหอมกรุ่น

เวลาเช็คอินคือ15.00 น. และเวลา เช็คเอาท์คือ 12.00 น. สำหรับ Roomtype ของ Silavadee ขอบอกเลยว่ามีให้เลือกถึง 11 Roomtype บางคนอาจจะคิดว่าที่นี่ราคาสูง ถามว่าสูงไหมก็ราคาพูลวิลล่าประมาณนี้ก็ถูกแล้วนะ แต่สำหรับคนงบน้อยแต่อยากมาพักที่นี่ เค้าก็มีห้องพักให้เลือกสรรค์ ราคาเริ่มต้นอยู่ 6000-7000 ขึ้นอยู่กับ Season  เป็นห้อง JACUZZI DELUXE ROOM เนื้อที่ภายในก็ไม่เล็กนะ ความกว้างอยู่ 50 ตารางเมตร เดี๋ยวอิ้มจะพาไปชมค่ะ ก่อนอื่นขอพามาชมห้องที่ตัวเองพักในครั้งนี้ก่อนนะ อิ้มมาพักที่นี่ 3 วัน 2 คืน เข้าพัก 2 Roomtype วันแรก Roomtype ที่อิ้มพักมีชื่อว่า Ocean Front Pool Villa ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 9 หลัง ขนาดห้องอยู่ที่ 150 ตารางเมตร ภายในแบ่งออกเป็นห้องนอน มุมนั่งเล่น ห้องน้ำ และ An infinity-edge pool with “Aqua Jet Seating” ต้องบอกก่อนนะว่า Silavadee Pool Spa Resort ไม่ใช่รีสอร์ทแนวโมเดิร์น แต่ที่นี่เป็น รีสอร์ทที่ออกแบบมาให้กลมกลืนกับธรรมชาติ คำว่าศิลา ก็แปลตรงตัวว่าก้อนหิน ตัวรีสอร์ทสร้างบนเขา เน้นสร้างตามความธรรมชาติ เช่นบางห้องมีต้นมะพร้าวบังวิว เค้าก็จะไม่ได้ตัดออก บางห้องมีก้อนหินขนาดใหญ่ เค้าก็สร้างวิลล่าท่ามกลางหินก้อนนั้น ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวส่วนการตกแต่งภายในห้องก็จะใช้ไม้และวัสดุสีน้ำตาลเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้ผู้เข้าพักสัมผัสถึงธรรมชาติอย่างแท้จริง ตอนเข้ามาในห้องนี้อิ้มว้าวมากกก ภายในห้องนอนการตกแต่งอาจจะเฉยๆ แต่วิวนี่ว้าวมากพูดเลย

สามารถเลือกได้ด้วยนะคะว่าชอบนอนหมอนแบบไหน

มุมนั่งเล่น

ถัดมาจะเป็นห้องแต่งตัวค่ะ

ข้างๆ กันจะเป็น ตู้เย็นและพวกมินิบาร์

ภายในห้องน้ำค่ะ กว้างขวางและเซ็กซี่เวอร์

อ่างล้างหน้ามีสองฝั่งเหมาะสำหรับคู่รักที่ชอบทำอะไรพร้อมๆ กัน เช่นนนนนน แปรงฟันไง อย่าคิดลึก 5555

อเมนนิตี้ ที่ใช้จะเป็นผลิตภัณฑ์จาก Punpuri กลิ่นหอมสดชื่นดีค่ะ

เอาหล่ะได้เวลามาชมวิวจากหน้าวิลล่า ย้ำ !!! หน้าวิลล่า ตอนนี้อิ้มเปิดประตูออกไป ทุกอย่างมันหยุดเคลื่อนไหว วิวข้างหน้าสวยแทบลืมหายใจ

สตั้นไปไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูห้อง ทำให้ได้สติมาอีกครั้ง 555 Afternoon tea ที่สั่งไว้มาเสิร์ฟให้ทานถึงภายในห้อง

นั่งทานอาฟเตอร์นูนทีพร้อมวิวแบบนี้ … บางครั้งคำบรรยายก็ไม่เท่าไปสัมผัสได้เอง

เวลาผ่านไปไม่นานก็จะหมดวันแล้วค่ะ ช่วงเย็นอิ้มไปใช้บริการห้องอาหารของรีสอร์ท ที่ Silavadee Pool Spa Resort เค้าจะมีห้องอาหารให้บริการทั้งหมด 6 แห่ง

1. THE HEIGHT ให้บริการอาหารไทยเปิดเฉพาะช่วงเย็น

2. SUN DECK ซึ่งสัปดาห์หนึ่งจะเปิดให้บริการเพียงสองวันเท่านั้น และเปิดเฉพาะช่วงเย็น

3. MOON เป็นห้องอาหารหลัก ให้บริการอาหารแบบ international ให้บริการตั้งแต่มื้อเช้าไปจนถึง 4 ทุ่มครึ่ง

4. STAR เป็นบาร์ของรีสอร์ท เปิดบริการช่วงเย็น

5. SUN LOUNGE ให้บริการ ขนมโฮมเมดต่างๆ ที่รีสอร์ททำเองและเครื่องดื่ม เปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น

6. SUN POOL BAR ให้บริการเครื่องดื่ม ริมสระว่ายน้ำ เปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น ซึ่งมื้อเย็นวันแรกอิ้มใช้บริการที่ห้องอาหาร MOON ค่ะ

สั่งเครื่องดื่ม มาทานกัน จะบอกว่า Cocktail ที่นี่อร่อยมากกกก

ช่วงเย็นเราทานเป็น คอร์ส Dinner จะมี Lobster set และ Wagyu set 1 เซ็ตจะมีอาหาร 4 คอร์ส สำหรับใครไม่ทานอาหารทะเลและเนื้อน่าเสียดายมากกกก จะเริ่มต้นด้วย Appetizer Soup Main course และ Dessert สำหรับ Lobster set จะมีเมนูตามนี้ค่ะ

และ Wagyu set ส่วนตัวชอบ Appetizer เซ็ตนี้มาก เป็น scallop กับ foie gras

อาหารโดยรวมอร่อยมากกก จานใหญ่มากกกก ใครสั่ง Lobster set มั่นใจเลยว่าอิ่มตั้งแต่จาน Main ยังไม่หมด แต่อาจจะเลี่ยนนิดๆ เพราะซุปก็จะเป็นครีม และตัว Lobster จะเป็นอบชีส แต่ถ้าคนชอบทานสองอย่างนี้ผ่านฉลุยค่ะ ส่วน Wagyu set  อร่อยมากกก ทุกอย่างพอดี ยิ่งตัว Wagyu  เชฟทำออกมาได้ดีเยี่ยม ประทับใจกับเซ็ตนี้มากๆ อิ่มท้องแล้วก็กลับไปพักผ่อนและนอนหลับฝันดีที่วิลล่า เช้าวันที่สอง อิ้มตื่นมาโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องใช้นาฬิกาปลุกแต่อย่างใด ตื่นปุ๊ปก็รีบเปิดผ้าม่านและวิวที่เห็นก็เป็นแบบนี้ อยากตื่นเช้ามาแล้วเห็นวิวแบบนี้ในทุกๆ วัน

ออกไปรับไอแดดในยามเช้า เชื่อไหมว่าอิ้มนั่งอยู่ตรงนี้เป็นครึ่งชั่วโมง พร้อมถามตัวเองว่า นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้พักผ่อนและให้ธรรมชาติบำบัดหัวใจได้เต็มอิ่มขนาดนี้

สวยมาก โรแมนติกมากกกกก มากับแฟนคือดีย์จริงๆ

และนี่คือมุมของห้องน้ำค่ะ สามารถตีฟองแช่อ่าง ชมวิวท้องทะเลได้อย่างเต็มตา เป็นห้องน้ำที่เซ็กซี่มาก

ไฮไลท์นึงของ Roomtype นี้ก็คือ บานประตูที่เป็นกระจก เราสามารถเปิดและลงไปสระว่ายน้ำได้เลย สะดวกสบายจริงๆ

หลังจากชมวิวหน้าห้องเต็มอิ่มแล้วก็ได้เวลาเสริมกำลังทัพให้พุงน้อยๆ กันแล้วค่ะ อาหารเช้าจะให้บริการที่ห้องอาหาร Moon ซึ่งมีทั้งแบบ A la Carte ตามสั่งจากเมนู และเป็น Buffet ที่มีให้เลือกมากมายก่ายกอง

อาหารเช้านอกจากจะมีหลายอย่างให้เลือกทานแล้ว รสชาติก็อร่อย แถมคุณภาพก็ดีมาก เอาไปเลย สิบ สิบ สิบ

ที่นี่เค้ามีข้าวขาหมูให้ทานด้วยนะ อยู่ในไลน์บุฟเฟ่ต์เลยจ้าาาา อร่อยมากกด้วยเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มที่เป็นแบบออริจินัลและแบบซีฟู้ด

และที่สั่งจากในเมนู A la Carte

เต็มอิ่มจากมื้อเช้าแล้วอิ้มจะพาไปสำรวจบริเวณต่างๆ รอบ รีสอร์ทกันค่ะ ขอเริ่มจาก Roomtype ในโซน Deluxe ก็จะมีอยู่ 3 แบบด้วยกัน ให้จำง่ายๆ ก็แบบนี้

1. JACUZZI DELUXE ROOM มีอ่างไม่มีวิว

2.DELUXE BALCONY ROOM มีวิวไม่มีอ่าง

3. OCEAN VIEW JACUZZI DELUXE ROOM ได้ทั้งอ่างได้ทั้งวิว

ราคาไล่ตั้งแต่เริ่มค่ะ แต่ถ้ามาพักโซนนี้ แนะนำให้จอง OCEAN VIEW JACUZZI DELUXE ROOM เพราะมีอ่างจากุซซี่ และมีวิวที่สวยใช้ได้ ภายในห้อง 3 แบบนี้จะคล้ายกันหมด ต่างกันที่ระเบียงและวิว

วิวของ OCEAN VIEW JACUZZI DELUXE ROOM

และอ่างจากุซซี่ด้านนอก ก็เป็นอ่างใหญ่มาก ไม่ใช่อ่างเล็กๆ เอาไว้เลี้ยงปลานะจ้ะ

ต่อมา มาชมสระว่ายน้ำ ที่นี่มีอยู่ 2 สระด้วยกัน สวยมากทั้งสองสระ แต่ส่วนตัวอิ้มจะชอบสระนี้เป็นพิเศษ เพราะว่าคนน้อย วิวสวย ในสระมี Aqua Jet Massage Bed ด้วยนะจ้ะ

ทุกคนอาจจะเข้าใจว่ามาพักที่นี่อาจจะไม่มีชายหาดให้เล่น คุณคิดผิดจ้า ที่นี่มีชายหาดที่สมบูรณ์มาก ในบางวันจะมีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ ด้วยนะคะ

ชายหาดของรีสอร์ทก็จะมีก้อนหิน เล่นน้ำด้วยความระมัดระวังนะคะ บริเวณด้านล่างนี้ก็มีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำ ตั้งแต่ พายเรือคายัค snorkeling ต่อยมวย โยคะ ทุกอย่างให้บริการฟรี และถ้าเล่นไม่เป็นก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยสอนอย่างใกล้ชิด

กลับมาพักผ่อนที่วิลล่าอีกสักหน่อยก่อนย้ายไปอีก room type ค่ะ

ได้เวลาเปลี่ยนห้องนอนแล้วววว ก่อนจะพาไปอีกห้องอิ้มจะพาไปชมสระว่ายน้ำที่ 2 ของรีสอร์ทกันค่ะ สระว่ายน้ำที่สอง จะมี SUN LOUNGE ให้บริการ ขนมโฮมเมดต่างๆ ที่รีสอร์ททำเองและเครื่องดื่มเปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น และ SUN POOL BAR ให้บริการเครื่องดื่ม ริมสระว่ายน้ำ เปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น คอยให้บริการอยู่ค่ะ

เข้ามา ทานขนมที่ SUN LOUNGE พร้อมทาน Cocktail ตัวใหม่เป็น Cocktail ที่ทำมาพิเศษเนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี Silavadee เป็น Cocktail ที่ทำจากมะม่วงค่ะ และมีก้อนน้ำแข็งที่เป็นมะม่วง ตรงขอบแก้วเป็นพริกเกลือ เวลาทานเหมือนทานมะม่วงกะพริกเกลือ อร่อยมากกกก

จากนั้นกลับมาที่ห้องอาหาร MOON อีกครั้งเพื่อทาน Lunch ค่ะ กลางวันนี้ขอทานแบบ inter หน่อย สลัดจานนี้ดีงามมากกก ใครชอบทานมะม่วงและอโวคาโด้ ต้องสั่งนะคะ

พิซซ่าเนื้อวากิวววว โอ้ยยยยฟิน

สปาเก็ตตี้สั่งมาสองแบบค่ะ

แต่ไม่นอกใจ aglio e olio น๊าา

ไฮไลท์ของมื้อเที่ยง ล็อบเตอร์ซาชิมิค่ะ เป็นครั้งแรกที่ได้ทาน อร่อยมากกกกกกกก สดมากกกก เนื้อเด้งในปาก กรุบกรอบ

โชยุนิดๆ วาซาบิ หน่อยๆ คือลงตัว

ทานอาหารได้สักพัก ก็เดินย่อยอีกนิด พอช่วงบ่ายแก่ๆ ก็ได้เวลามาทำสปา อิ้มเลือกเป็นตัว Signature ค่ะ เป็นการนวดน้ำมัน โดยน้ำมันต่างของที่นี่ทำมาเพื่อให้เหมาะสำหรับสภาพผิวต่างๆ มีทั้งผิวแห้ง ผิวมัน ผิวแพ้ง่าย Therapist จะแนะนำเราก่อนเขารับบริการและไฮไลท์ของการนวด Signature นี้ก็คือจะใช้น้ำมันอุ่นๆ หยดลงบนศีรษะ เผื่อให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น

ภายในห้องทรีตเม้นท์

หลังจากทำสปาเสร็จ อิ้มก็ย้ายมาพักอีก Roomtype Roomtype  นี้ก็คือ OCEAN FRONT POOL VILLA SUITE เป็นวิลล่าส่วนตัวที่มีขนาดถึง 300 ตารางเมตร แบ่งเป็น 2 วิลล่าก็คือห้องนอนและห้องนั่งเล่น และ infinity-edge pool with “Aqua Jet Massage Bed” ดีงามมากกกกกกกกกกก วิลล่าที่อิ้มพักเป็นวิลล่าที่ 1 จะมีต้นมะพร้าวบังวิวเล็กน้อย

 ขนาดกว้างขวางจริงจัง

มาชมส่วนด้านในของวิลล่าที่เป็นห้องนอนกัน ส่วนแรกเปิดประตูเข้ามาจะเป็นเตียงนอนค่ะ

ถัดจากห้องนอนจะเป็นตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และพวกตู้เย็น มินิบาร์

ถัดมาจะเป็นห้องน้ำ ขนาดกว้างขวางมากกก เน้นว่ามากกก

ส่วนนี้อิ้มชอบมากค่ะ เพราะมีกระจกบานใหญ่ไว้สำรวจการแต่งกาย

บริเวณอ่างอาบน้ำก็จะมี เกลือ ใยขัดผิว และตะเกียงน้ำหอม ไว้จุดผ่อนคลาย

มีขนมให้ทานด้วยนะคะ

ชาจะเป็นของ Twinings

มินิบาร์มีค่าใช้จ่ายเขียนชัดเจน

ไปชมห้องนั่งเล่นกันบ้างค่ะ

มีโซฟาเบด ทีวี ตู้เสื้อผ้า และห้องน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ไม่นานก็เริ่มค่ำ ช่วงเวลาที่มีความสุขผ่านไปเร็วเสมอ วิวจากห้องนอนที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้สุดสายตา

จากห้องนั่งเล่นยามค่ำคืน

มื้อดินเนอร์ วันนี้เลือกเติมความหวานให้เราทั้งสองคน โดยการทาน Barbecue in villa เป็นมื้อพิเศษ โรแมนติกไปอี๊กกกกกกก

เป็นมื้ออาหารที่นอกจากจะอร่อยและยังมีความสุข ทั้งบรรยากาศ สถานที่ และคนข้างๆ

เช้าวันที่สาม ใกล้เวลาที่ต้องเดินทางกลับแล้ว จะเชยไปไหมนะ ถ้าจะบอกว่ายังไม่อยากกลับเลย …

เราสองคนใช้เวลาช่วงเช้าพักผ่อน จิบกาแฟ มองวิวทะเลที่อยู่ตรงหน้า

หลังจากนั้นเราก็มาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร Moon ค่ะ เมนูอาหารเค้าดีจริงๆ แนะนำให้ทานครัวซอง ขาหมู และเมนู A la carte ที่สั่งแยก อร่อยทุกอย่าง

กลับเข้ามาว่ายน้ำ และพักผ่อนอีกสักหน่อย

ได้เวลาเช็คเอาท์ค่ะ ก่อนกลับทานอาหารเที่ยงกันอีกรอบที่ห้องอาหาร Moon เที่ยงนี้ขอลองอาหารไทย ซึ่งรสชาติอร่อยมากๆ ยอมรับอาหารที่นี่อร่อยจริง ตัวแตกกลับไปอีกแล้ววว

ขากลับเดินทางกลับ กับ บางกอกแอร์เวย์เช่นเคย

ขอบคุณช่วงเวลาดีๆ ที่แสนจะประทับใจ นี่เป็นอีกทริปที่มีความพิเศษ และเต็มไปด้วยความสุข

สำหรับ Silavadee Pool Spa Resort ส่วนตัวอิ้มคิดว่าที่นี่สวยงามมาก หากใครมีงบถึงแนะนำเลยค่ะ รับรองว่าควรค่ากับการเราจะเลือกมาพักที่นี่สักครั้งเพื่อเป็นรางวัลของชีวิตแน่นอน ที่นี่เงียบสงบ บรรยากาศดี วิลล่าวิวสวยมากกกก แต่บางห้องอาจจะไม่เป็นส่วนตัวเท่าที่ควร ติดตรงนี้เท่านั้น นอกนั้นอิ้มชอบหมดทั้งบริการ ในส่วนต่างๆ พนักงานน่ารัก และที่สำคัญอาหารอร่อยมากกกกกกกกกกก เป็นรีสอร์ทในฝัน ที่สวย สมคำร่ำลือจริงๆ หากคุณอยากมาพักผ่อนในรีสอร์ทที่ออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติ วิวสวย และได้พักผ่อนให้ธรรมชาติบำบัดหัวใจ Silavadee Pool Spa Resort คือคำตอบของคุณอย่างแน่นอน