คราวนี้เรามาพักกันที่ห้องพักแบบ Ocean Front Pool Villa Suite ที่มีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 300 ตารางเมตร สไตล์การตกแต่งของที่นี่เป็นแบบ Back to The Nature ซึ่งเป็นการสร้างรีสอร์ทให้สอดคล้องไปกับธรรมชาติโดยไม่ได้ทำร้ายต้นไม้หรือก้อนหินที่มีอยู่เดิมแต่อย่างใด
เมื่อเข้ามาที่ด้านในวิลล่าก็ต้องสะดุดตากับสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่สไตล์ Infinity Edge Pool ลึก 1.4 เมตร สามารถแช่น้ำชมวิวธรรมชาติได้แบบเต็มๆ ที่ด้านข้างมี Aqua Jet Massage Bed ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายระหว่างนอนเล่นในสระได้ด้วย พร้อมทั้ง Day Bed ให้นอนเล่นชิวๆ ได้อีกอารมณ์
ส่วนของห้องนอน โดดเด่นด้วยเตียงนอนขนาดใหญ่ที่หันหน้าสู่ทะเล เรียกว่าตื่นมาปุ๊บก็เห็นพระอาทิตย์กำลังเคลื่อนตัวพ้นจากขอบน้ำมาให้เชยชมกันเลย พร้อมด้วยโซฟาและ Day Bed ด้านใน ให้เลือกพักผ่อนกันตามอัธยาศรัย
มาเริ่มที่มื้อเช้ากันก่อนเลย ซึ่งเป็นอาหารแบบ International Buffet ที่มีไลน์อาหารให้เลือกมากมาย หรือจะสั่งเป็น A La Carte ก็มีเมนูให้เลือก ทั้งเมนูไข่ต่างๆ อาทิ Scrambled Egg, Egg Benedict with Paris Ham, Poached Egg หรือจะเป็นเมนูสุขภาพอย่าง Five Egg White Omelete และอาหารร้อนอย่าง Butter Fish with Fresh Turmeric รวมถึงของหวานอย่าง Pancake ฯลฯ ส่วนอาหารในไลน์บุฟเฟ่ต์ก็มีให้เลือกมากมายทั้งสลัด Cold Cut ขนมปังที่ทางรีสอร์ททำเอง ขนมจีบ ซาลาเปา ก๋วยเตี๋ยว ข้าวขาหมู เครื่องดื่มก็มีให้เลือกทั้งน้ำผลไม้ Sparkling Wine รวมทั้งชา กาแฟ ที่ชงกันสดๆ ซึ่งสามารถสั่งกับพนักงานได้เลย
ครัวซองอร่อย หอม สุดๆ ^^
แชมเปญฟรียามเช้าสักแก้วม้ายยยยย
เนื่องจากเราจัดมื้อเช้ากันมาอย่างเต็มที่ มื้อกลางวันเลยขอแบบเบาๆ กันบ้าง เลยมานั่งจิบเครื่องดื่มกันที่ Sun Lounge ที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำ ซึ่งให้บริการเบเกอรี่ที่ทางรีสอร์ททำเอง ไอศกรีม และเครื่องดื่ม แถมยังมีโต๊ะ Pool ให้ได้ประลองฝีมือกันด้วย ห้องอาหารนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้าจนถึง 6 โมงเย็น
ส่วนอาหารเย็นอีกอารมณ์หนึ่ง เราขอจัด BBQ in Villa กันที่หน้าห้องนอน ซึ่งทางรีสอร์ทจะมาเตรียมให้ แถมตกแต่งได้บรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติก วัตถุดิบก็ขนมาแบบเต็มๆ แทบจะยกทะเลกันมาเลยทีเดียว